ข้าวเหนียวมูล 5 สี หน้าสังขยา หน้าปลา หน้ากุ้ง หน้าไข่ปลา (ไข่แมงดา) หน้าลูกลานเชื่อม
ข้าวเหนียวมูล 5 สี
- ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเก่า 1 กิโลกรัม
- มะพร้าวขูดขาวคั้นเอาหัวกะทิ 1 กิโลกรัม
- น้ำตาลทราย 500 กรัม (ไม่ชอบหวานให้ลด)
- เกลือ 100 กรัม
- น้ำคั้นดอกอัญชัญ
- ผงขมิ้น
- น้ำคั้นใบเตย
- น้ำคั้นบีทรูธ
- สารส้มสำหรับขัดข้าว
วิธีทำ
- นำข้าวสารนำไปซาวกับสารส้ม สังเกตุดูว่าตอนแรกข้าวจะลื่นๆขัดไปขจนผิวข้าวเริ่มสากมือให้พอ แกว่งเพื่อให้ข้าวเม็ดสวยและน้ำใส นำไปล้างสารส้มออกซัก 3 น้ำ สังเกตุดูน้ำแช่ข้าวจะไม่ขุ่น นำไปแช่น้ำไว้ 1 คืน
- นำข้าวเหนียวไปเสด็ดน้ำ ไปผึ่ง เวลานึ่งข้าวข้าวจะไม่แฉะ ตั้งซึ้งเตรียมนึ่งข้าว น้ำที่ต้มให้ใส่ใบเตยลงไปด้วย เพื่อให้ข้าวมีกลิ่นหอม
- นำผ้าขาวบางมาวางรอง นำข้าวที่ผึ่งมานึ่ง ตอนวางข้าวสังเกตุว่าข้าวต้องไม่แฉะถ้าแฉะข้าวจะไม่สุกคับ ห่อผ้าขาวบางทับข้าวทบมุมทั้งสี่แฉก จะทำให้ข้าวสุกทั่ว และเวลาข้าวสุกเราต้องยกออกโดยการดึงผ้าขึ้น
- นำกะทินำมาผสมกับน้ำตาลและเกลือ ชิมรสให้หวาน หอม มัน และ เค็ม เคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อน ห้ามให้กะทิแตกมัน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงจนน้ำกะทิเริ่มใสและเหนียวขึ้น แล้วนำไปกรอง
- นำน้ำกะทิที่ได้แบ่งเป็น 5 นำไปผสมน้ำอัญชัญ น้ำใบเตย น้ำบีทรูธ และ ขมิ้นผง จากนั้นเอาไปตั้งไฟให้แค่เริ่มเดือดพอ มูลข้าวเหนียว และ ทิ้งไว้ ขั้นตอนนี้ต้องใส่ตอนที่ข้าวเหนียวร้อนๆเลยทันที
- เพราะข้าวเหนียวจะดูดน้ำกะทิและขึ้นหม้อ เรียบร้อย
หน้าไข่แมงดา
- ไข่ไก่ 4ฟอง
- ไข่เป็ด 1ฟอง
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
- น้ำลอยดอกมะลิ 1ถ้วย
- กรวยใบตองตัดปลายนิดหน่อย
วิธีทำ
- ตอกไข่ใส่ชาม แยกเอาเฉพาะไข่แดง เอาเยื่อที่หุ้มไข่แดงและไข่น้ำค้างออก เอาตีให้พอแตก กรองด้วยผ้าขาวบาง
- นำน้ำตาลทรายและน้ำลอยดอกมะลิคนให้ละลายแล้วนำไปตั้งไฟให้เดือด รอแบ่งส่วนหนึ่งไว้สำหรับลอยไข่แมงดาที่ทำเสร็จแล้ว
- ตักไข่แดงที่กรองแล้วใส่กรวยใบตองสำหรับหยอด หยอดลงในน้ำเชื่อม น้ำเชื่อมควรเดือดเป็นฟองตลอดเวลาไม่งั้นไข่แมงดาจะไม่เป็นเม็ด เมื่อสุกช้อนขึ้นแช่ไว้ในน้ำเชื่อม
หน้าสังขยา
- ไข่เป็ด 4ฟอง
- หัวกะทิข้น ๆ 2ถ้วย
- น้ำตาลโตนด 200กรัม(ชอบหวานเพิ่มได้)
- นมข้นจืด 50กรัม
- เกลือป่นนิดหน่อย
- ใบเตยใช้ขยำไข่ลดคาว
วิธีทำ
- นำไข่ตอกใส่ถ้วยผสม นำส่วนผสมที่เหลือใส่ลงไป
- นำใบเตยล้างให้สะอาด ขยำให้ช้ำแล้วตัดเป็นท่อนๆขนาดพอดี นำไปขยำกับส่วนผสมที่เตรียมไว้
- พอขยำเข้ากันดีให้พักไว้ สังเกตุดูว่าจะมีกลิ่นหอมใบเตยมากกว่ากลิ่นคาวไข่
- นำใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ใส่ลงไปอย่าให้เต็มขอบภาชนะ เผื่อสังขยาสุก นำไปนึ่งให้สุก อย่าใช้ไฟแรงนึ่งเพราะสังขยาจะฟูและหน้าจะไม่สวย สังเกตุว่าสุกหรือไม่ให้ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มดู ถ้าสุกแล้วจะไม่มีไข่เหลวติดไม้จิ้มฟันขึ้นมา
หน้าปลาแห้ง
- เนื้อปลาช่อนตากแห้ง 150 กรัม
- หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- น้ำมันหมู
วิธีทำ
- นำปลาช่อนตากแห้งย่างไฟให้หอมแล้วนำไปโขลกจนเนื้อปลาฟู
- นำหอมแดงไปเจียวในน้ำมันหมูให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
- นำน้ำมันเจียวหอมผัดกับปลาที่เตรียมไว้ ใส่เกลือลงไปผัดจนเนื้อปลาเริ่มเหลือง ใส่หอมเจียวลงไปผัด จนได้ที่แล้วตักออกพักไว้ให้เย็น
- นำน้ำตาลทรายไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
หน้ากุ้ง
- กุ้งหวานนำไปสับ 100 กรัม
- สามเกลอ 1 ช้อนชา
- มะพร้าวขูดขาว 50 กรัม
- เกลือ 1 / 2 ช้อนชา
- น้ำตาลโตนด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย
- น้ำมันหมู
- สีผสมอาหาร สีส้ม
วิธีทำ
- นำมะพร้าวไปนวดกับสีส้มจนเนื้อมะพร้าวเป็นสีส้มแล้วพักไว้
- ตั้งกะทะใส่น้ำมันลงไป นำสามเกลอลงไปผัดกับเนื้อกุ้งหวานสับให้หอม
- ใส่มะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ลงไปผัด ปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนด เกลือ ผัดให้เข้ากัน ใส่ใบมะกรูด ปิดไฟ