อันยองงงงง
แน้ ทักทายเป็นโคเรียขนาดนี้ รู้เลยใช่ป่ะว่าไปไหนมา แฮ่ เค้าแอบไปเที่ยวเกาหลีมาค่า เลยเอาเมนูที่ไปลองมาแนะนำกัน ปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศพอกลับไทยนี่จะรู้สึกโหยหาส้มตำมาก ๆ (ใครเป็นบ้าง 55) แต่อาหารเกาหลีส่วนใหญ่จะมีรสชาติเผ็ด แบบเผ็ด ๆ หวาน ๆ ซึ่งถ้าเป็นอาหารไทยก็จะเผ็ด เปรี้ยว หวาน ก็เลยคิดว่าน่าจะถูกปากคนไทยมากกว่าอาหารประเทศอื่น ๆ ค่ะ (เน้นคนที่ชอบทานกิมจิด้วยน้า)
วันแรกลงเครื่องเช็คอินเข้าที่พัก เค้าก็ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่ตลาดกวางจังก่อนเลย ตื่นตาตื่นใจมากค่ะ ของกินทั้งนั้น มอง ๆ ไปเค้าก็จะขายของคล้าย ๆ กันนะคะ ที่เยอะที่สุด น่าจะเป็นแป้งถั่วทอดไม่ได้ลองทาน ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่คงจะหวาน ๆ หน่อยอ่ะค่ะ ดูจาก BG ด้านหลัง (คนโสดไปเที่ยวก็จะมีความแค้น ๆ หน่อย 555)
ลักษณะการทานอาหารแถวนี้ก็คือการไปนั่งล้อมร้านเค้าไว้ค่ะ เหมือน ๆ นั่งทานที่บาร์งี้ คนเยอะมากกก
มาถึงที่เราทานกันบ้าง เพิ่งลงจากเครื่องเลยยังเพลีย ๆ ลองทานได้แค่ร้านเดียว ร้านเดียวที่สั่งมา 4 อย่างเอ๊ง ต็อกบอกกี มันดู ซุนแด และ poyeo eomneun dakbal หรือขาไก่เผ็ด
มันดู หรือก็คือเกี๊ยวนึ่ง มีไส้กิมจิ กะอีกอันไม่รู้อะไร อาจจะหมูกับผัก อร่อยค่ะ พูดถึงแล้วอยากกินอีก แง
ส่วนซุนแด หรือก็คือไส้กรอกเลือดนั่นเองค่ะ เหม็นคาวอ่ะ คำเดียวจอดแต่เพื่อนเราชอบนะ ถ้าทานเครื่องในได้ลองสั่งดูค่ะ
ขาไก่เผ็ด อร่อยมากกกกกก เผ็ด ๆ เนื้อเด้ง ๆ เคี้ยวแล้วกรึบ ๆ มาเพิ่มคอลาเจนกัน
จบจากตลาดมาถึงเมนูที่โด่งดังของเกาหลีอีกหนึ่งเมนู นั่นก็คือ จิมดัก ค่า ร้านที่แวะนี่ชื่อ Andung Jjimdak การเดินทาง รถไฟใต้ดินมยองดง ทางออก 6 การเดินทางเราแนะนำ ให้ออกตามทางออกที่บอก จากนั้น เข้า Google หรือ Naver Map แล้วเสิชชื่อร้านจะง่ายขึ้นเยอะ เพราะเราไปตามรีวิว เลี้ยวตรงร้านนั้น ร้านนี้ คือ ร้านซ้ำ ๆ กันเยอะมากค่ะ เลี้ยวผิดซอยก็อาจจะยังเจอร้านนั้นอยู่เพราะมีหลายสาขา หลงอ่า ไปตาม Map ดีที่สุดค่า
ลักษณะก็จะคล้าย ๆ พะโล้วุ้นเส้น อันนี้ก็อร่อย ถูกปาก เส้นจะเหนียวหนึบ รสชาติเข้มข้นมาก ที่สั่งเป็นจิมดักไก่จ้า
วันที่สองเราออกนอกโซลไปเที่ยวจอนจูค่ะ มาชมเมืองโบราณกันหน่อย โดยอาหารที่ขึ้นชื่อของจอนจูคือ บิบิมบัม หรือ ข้าวยำเกาหลี นั่นเอง ร้าน HanKookWan เป็นร้านเก่าแก่มากค่ะ เปิดมาตั้งแต่ ค.ศ.1971 อันนี้มารู้ทีหลัง คือ เรามาถึงก็เที่ยงพอดี ยังไม่ได้เดินเที่ยวเลย เพื่อนหิว ก็เลี้ยวเข้าร้านนี้เลย
ในเมนูเค้าจะมีให้เลือกว่าจะให้เสิร์ฟใส่ชามทองเหลือง (อุณหภูมิ 65°C) หรือ ชามหินร้อน (อุณหภูมิ 150°C) ที่สำคัญเป็นเนื้อนะทุกคนนน นี่ไม่ทานเนื้อ แง เมนูมีแค่ 3-4 แบบนี้เลย คือเนื้อผัดซอสหรือเนื้อดิบ กะภาชนะที่เสิร์ฟ
ชามละ 13,000 วอนเท่ากัน สรุปว่าเราทานเป็นมังสวิรัตอ่ะ มีความเสียใจ จากที่เราเคยทานบิบิมบับคือ ไม่เป็นแค่พวกผักกับไข่ ก็เคยเจอแบบใส่หอยแมลงภู่ในข้าวมาให้ค่ะ รสชาติอร่อยดี แต่เสียใจอ่ะ แพงด้วยรู้สึกขาดทุน 555
ตามภาพ ชามทองเหลืองมีเนื้อ ชามหิน มีไข่ สุขภาพดีค่า ปลอบใจตัวเอง
สาเหตุที่เปลี่ยนร้านไม่ได้ เพราะสารพัดเครื่องเคียงมาถึงก่อนสิ่งอื่นใดนั่งปุ๊บเครื่องเคียงมาปั๊บ หนีไปไหนไม่รอดละเน้อ
ต่อด้วยมื้อเย็นกันดีกว่า ต้องการชีสปลอบใจค่า มาที่ร้าน เดอะ แมอูล (ที่เหลืออ่านไม่ออกอ่าก็อปชื่อร้านไปเสิชน้า) THE더매운갈비찜&치즈등갈비 การเดินทาง ลงรถไฟใต้ดินสถานี sangsu ออก Exit 4 แล้วซ้ายหัน เจอร้านเฉยเลยง่ายจนงงใจมาก ขึ้นบันไดกัน ร้านอยู่ชั้น 2 ค่ะ
ตามตามรอยแจจุง วง JYJ นั่นเอ๊ง
เมนูที่สั่งคือ สามชั้นชีส เพิ่มมันหวาน จริง ๆ มาทานซี่โครง แต่สั่งไม่รู้เรื่องเลยได้นี่มาแทน เศร้าอีกแล้ว ชีวิตน้องงงง
ราคาคนละ 9,900 วอน เพิ่มมันหวาน 2,000 วอน อร่อยค่ะ แต่ชอบ James Chesse มากกว่า ซี่โครงอร่อยกว่านี้มาก แงงง
มากันที่ขนมกันบ้างค่ะ ร้านนี้คือร้าน Happy Pills เหมือนเป็นร้านเยลลี่ครบทุกรสเลย เราสามารถเลือกขนาดขวด สติกเกอร์ตกแต่งได้ด้วยตนเองเลย
สกิลที่ต้องมีคือ การอัดค่ะ ยัดให้ได้เยอะที่สุด เด่วไม่คุ้มอ่ะ
ขวดนี้ 15 ml ราคา 4,800 วอนค่า มันก็จะออกมาบี้หน่อย ๆ เพราะแน่นเอี๊ยด
เราเจอร้านนี้แถวถนนซัมซองดง ตอนเดินเรื่อย ๆ จาก Gyeongbokgung ไป Bukchon Hanok Village ค่ะเดินต่อมาก็แวะดื่มชาเขียวร้อน ๆ คลายหนาวซะหน่อย ร้าน OSULLOC Green tea เป็นร้านเก่าแก่มีชื่อเสียงแห่งเกาะเจจู วันนี้เราแวะสาขาที่อยู่บนถนนซัมซองดง ก่อนถึงบันไดหินขึ้น Bukchon Hanok Village
มาทานเป็นครั้งที่ 2 แล้วค่ะ มาครั้งแรกชอบมาก คนไทยจะรู้จักดีกับแยมชาเขียว โด่งดังมากแต่ครั้งนี้มาแวะดิื่มชาร้อนอย่างเดียวค่ะ ชาจะมีสองแบบ คือ Matcha latte และ Roasted Mattecha latte ตัวหลังนี่จะมีกลิ่นของชาที่ถูกคั่วหอม ๆ ด้วยค่ะ สีจะออกน้ำตาล ๆ แต่เราชอบแบบ Matcha latte สีเขียว ๆ นี่มากกว่า อร่อยยย
หลังจากเที่ยว Bukchon Hanok Village เสร็จ เราก็จะเดินต่อไป อินซาดง ค่ะระหว่างทางหิวโหยกันมาก เลยแวะร้านนี้เลย BokChonOk ร้านอยู่ชั้นใต้ดินค่ะ
คุณลงเจ้าของน่ารักมาก นาน ๆ จะเจอร้านที่คุยกันรู้เรื่องอาหารก็จะเป็นแนวเกาหลีดั้งเดิม
อันนี้เป็นข้าวหมูผัดซอสกิมจิค่ะ
ได้ทานบิบิมบับอีกแล้วค่ะ นี่ไง อันนี้ไม่มีเนื้อ….
มาถึงอินซาดงแล้ว ทานหนมก่อนเลย ขนมอุนจิที่เค้าเล่าลือกันอร่อยค่ะ เนื้อแป้งนุ่ม ๆ เหนียว ๆ อันละ 1,500 วอน ทานตอนร้อน ๆ ไส้เยิ้ม ๆ ฟินมาก
แนะนำอาหารเช้าบ้างดีกว่า เราพักที่ชินชนค่ะ ออกจากที่พัก เลี้ยวขวามาก็เจอเลย Isaac Toast&Coffe ร้านมีหลายสาขานะคะ เห็นร้านสีแดง ๆ ก็แวะทานได้เลย อร่อยมาก เป็นโทสต์ในรูปแบบต่าง ๆ ค่ะ อร่อยอ่ะ ง่วง ๆ อยู่ตื่นเลย
จำราคาไม่ได้นะคะ ลืมถ่ายรูปมา แต่ราคาไม่แพงมาก แนะนำเลย อร่อย ๆ
มาต่อที่ฮงแดกันเป้าหมายก็คือการช็อปปิ้งและวันนี้ต้องเนื้อย่างเท่านั้น เย้ แต่ ๆ เดินออกจากรถไฟใต้ดินฮงอิก เลี้ยวขวา เจอร้านหนมปลา แวะสิคะ อย่ารอ 55
8 ตัวเล็ก ราคา 2,000 วอน มี 2 ไส้ คัสตาร์ด กับ ถั่วแดง รสชาติดีค่ะดีกว่าไม่ได้กิน 55 แปบเดียวหมดแล้ว
แวะทานเนื้อย่างร้านนี้นะ อ่านชื่อร้านไม่ออก แงร้านนี้เป็นเนื้อย่างเตาถ่านค่ะ เราชอบทานแบบเตาถ่านมากกว่าพวกเตาอื่น ๆ เวลาย่างแล้วน้ำมันออกมาจะมันมาก เลยเน้นที่เตาถ่านค่ะ
ใช่ค่ะ จากบรรยากาศก็จะหวาน ๆ อีกแล้ว ฮา
แต่ราคาไม่หวานตามนะ เนื้อและหมูทั้งหลายจานละ 9,900 วอน
พวกผัก กิมจิ ทันมุูจิ สาหร่าย ตักเติมทานได้ตลอด อิ่มตรงนี้ 555
หลังจากช็อปปิ้งกันอย่างหนักหน่วงก็ต้องแวะสตรีทฟู้ดกันหน่อยอะไรนะ โอ๊ย อย่างเพิ่งสนใจว่าเราทานเนื้อย่างไปก่อนหน้านี้เลยค่ะ ลืม ๆ ไปก่อนต็อกโบกี คิมบับ ออมุก ตอนห้าทุ่ม อ้วนที่ไหน ไม่มี๊
สุดท้ายปิดท้ายด้วยการไปติ่งค่ะ ไปร้านกาแฟแจจุงวง JYJ Cafe J Holic อยู่แถว ๆ กังนัม ไปแล้วแวะเที่ยว SM Coex ได้ด้วย ลงสถานีเดียวกันได้ คือ Bongeusa (บงอึนซา) แต่ร้านกาแฟต้องออกทางออก 1 แล้วเดินไปเรื่อย ๆ ร้านจะอยู่ที่ตึก Scinco ชั้น 1 ค่า
งานติ่งยังไม่จบค่า เดินต่อไปอีกหน่อยจะเจอ SMTOWN
มีทั้งของเล่น ขนม แกลอรี่ ของเหล่า อปป้าและนูนา ของพวกเรา แวะมาเดินเล่นกันนะ
มาต่อกันที่ของทั้งหลายที่หอบกลับมาค่าต้องออกตัวก่อนว่าไม่ค่อยได้ซื้ออะไรอ่ะ ส่วนใหญ่เป็นทริปกิน ฮา นี่เอามารีบรวม ๆ ถ่ายรูปให้ดู เพราะอยากแกะมาเล่นแล้ว รูปมันก็จะออกมาดูเหมือนถ่ายรูปด่วนหน่อย ๆ ค่ะ
ถ้าไปเกาหลีสิ่งที่เราไม่ซื้อไม่ได้คือ ทิ้นท์!!! สาว ๆ ถึงจะมีปากเดียว แต่มีลิปสีเดียวไม่ได้ มันผิด!! เข้าใจนะ ที่ซื้อมานี่ใช้กี่ปีถึงจะหมด มี Etude ทั้งทิ้นท์และอายไลเนอร์ที่โด่งดัง Holika Holika นี่เป็นตัว Waterdrop ใช้ดีมาก ซื้อสีม่วง ๆ มาลองใช้ก่อน แล้วกลับไปถอยเพิ่ม 2 สี และบรัชออนสีแดงก่ำ ๆ อีก มันลดราคา แฮ่ ส่วน Peripera ลิปบาล์ม แมวจาก Kakao และเล็บปลอม หาซื้อได้ที่ วัตสันค่ะ
ต่อมาเป็น The Face Shop ไปพอดีได้โปรโมชั่นลดราคา 50% ดีกับใจ เลือกแต่ที่ลดราคา และแผ่นเช็ดผมมันไรอันตัวฮิต
อันนี้คือเทสเตอร์ทั้งหลายที่เค้าแถมให้มา ฟิ๊นฟินเด้ออออ
ต่อมา เหล่า Friend ทั้งหลาย เป็น accessory Kakao Friend นี่เราชอบไรอันมากกก ปากกาหมีมีหนวด พลาสเตอร์ยา อิอิ Line Friend หมีบราวกะอุ๋ง ๆ เป็นที่รัดสายชาร์ตน้องแมวจาก Jetoy ที่รัดหูฟังกับสายห้อยโทรศัพท์
เหล่าขนมตั่งต่าง สาหร่าย มันหวานอบแห้ง และเครื่องดื่มหวาน ๆ (?) ที่อุตส่าห์หอบหิ้วกลับมา 55
ของหลายสิ่งจาก Diaso Korea ของน่ารัก ราคาไม่แพง แต่จะมีหลายราคา ไม่ 100 เยน หรือ 60 บาทแบบบ้านเรา คนชอบมูมินนี่จะฟินมากเลย ถุงผ้านี่เราซื้อเพราะลืมเอามา หลาย ๆ ประเทศ เวลาซื้อของเค้าจะคิดค่าถุงพลาสติกด้วย คิดเป็นเงินไทยก็ใบละ 3 บาท แต่เราเสียดายอ่ะค่ะ เลยมาซื้อถุงผ้าใบละ 60 บาท ไปใส่แทน มาคิด ๆ ดูเหมือนจะไม่คุ้มนะ แต่เอาเหอะ ลดโลกร้อน T^T ช้อนเกาหลีนี่ขาดไม่ได้เลยนะ ซื้อมากินมาม่า 55 ซองสีทอง ๆ คือ Hot Pad ค่ะ เป็นแผ่นที่จะมีเหมือนเม็ดทรายข้างใน เอาไว้ในกระเป๋าเสื้อ เวลากำ ๆ มันจะปล่อยความร้อนออกมา ช่วยให้หายหนาวได้เยอะเลย หลอดสีเขียว ๆ คือเทียนหอมกลิ่นแอปเปิ้ล ปล.ต้องถอยร่มเพราะฝนตกค่ะ
สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เป็นพวกรองเท้า ถุงเท้า และ Mask ปิดปากค่ะ
จบแล้ว เยอะมั้ย เขียนจบแล้วอยากจองตั๋วไปเที่ยวอีกเลย