ใครที่เป็นคนชอบกินเค็มต้องรีบอ่านเลยนะคะ เพราะวันนี้เราจะมาพูดถึง “เกลือและผงปรุงรส” ที่หลายๆ คนใช้เป็นเครื่องปรุงหลักในการประกอบอาหาร ทั้งอาหารคาว ขนมหวาน หรือแม้แต่เครื่องดื่มต่างๆ ความจริงแล้วเกลือไม่ใช่ของไม่ดีนะคะ แต่ที่ต้องรับประทานในปริมาณที่ไม่มากเกินไป
เพราะในเกลือจะมีสารตัวหนึ่งคือ สารโซเดียม ที่มีอยู่มากในเกลือค่ะโดยปกติร่างกายเราต้องการโซเดียมหรือเกลือแร่ไปช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต ช่วยให้ร่างกายกระปรี๊กระเปร่า ลดการเกิดตะคริว เวลาที่ร่างกายอ่อนแรงค่ะ แต่ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกายนะคะ
โซเดียมเป็นสารอาหารที่พบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์อยู่แล้ว ซึ่งหากเราทานอาหารทีปรุงรสด้วยเกลือหรือเครื่องปรุงที่มีโซเดียมมากเกินไป ก็จะยิ่งเพิ่มปริมาณโซเดียมเข้าสู่ร่างกายเราเข้าไปอีก มารู้ตัวอีกทีก็ป่วยเสียแล้ว
การรับประทานโซเดียมมากเกินความจำเป็นของร่างกายนั้น ส่งผลให้ไตทำงานหนักซึ่งสามารถรุกรามไปเป็นโรคไตได้ เพราะว่าไตมีหน้าที่ปรับสมดุลโซเดียมในร่างกายให้คงที่ ถ้าเรารับโซเดียมมากเกินไปไตก็จะทำหน้าที่กรองของเสียหนักขึ้น และเมื่อไตทำงานหนักระบบอื่นๆ ภายในร่างกายก็จะเสียสมดุลและมีอาการต่างๆ ตามมา เช่น ความดันโลหิตผิดปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ถ้าไตเสื่อมถาวร ก็ต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต
นอกจากเกลือแล้ว ในอาหารบางอย่างแม้จะไม่มีรสเค็มก็มีโซเดียมสูงได้เหมือนกันนะคะ
- อาหารที่มีส่วนผสมของเกลือ ได้แก่ เกลือ ซอสปรุงรสที่มีรสเค็ม เช่น น้ำปลา ซีอิ๊วขาว อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง เช่น เนื้อเค็ม ปลาเค็ม ปลาร้า ผักผลไม้ดอง เป็นต้น
- ผงชูรส แม้เป็นสารปรุงรสที่ไม่มีรสเค็ม แต่ก็มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย อาหารสำเร็จรูปต่างๆ ที่ขายในท้องตลาด มักมีการเติมผงชูรสลงไปแทบทุกชนิด หรือแม้การปรุงอาหารในบ้าน หลายครัวขาดผงชูรสไม่ได้เลย (ความอร่อยนี้เป็นสิ่งเสพติดที่มีโทษต่อสุขภาพ)
- อาหารสำเร็จรูป เช่น ผลไม้กระป๋อง ปลากระป๋อง และอาหารสำเร็จรูปต่างๆ ขนมกรุบกรอบ เป็นถุง เป็นต้น ซึ่งอาหารเหล่านี้มีการเติมเกลือหรือสารกันบูด ซึ่งมีโซเดียมในปริมาณที่สูงมาก
- ขนมต่างๆที่มีการใช้ผงฟู (Baking Powder หรือ baking Soda) เช่น ขนมเค้ก คุกกี้ แพนเค้ก ขนมปัง ซึ่งผงฟูที่ใช้ในการทำขนมเหล่านี้มีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ (โซเดียมไบคาร์บอเนต) รวมถึงแป้งสำเร็จรูป ที่ใช้ทำขนมเองก็มี โซเดียมอยู่ด้วย เพราะได้ผสมผงฟูไว้แล้ว
วิธีถนอมไต
หากทานอาหารรสจัดอย่างไม่ระวังจนไตเสื่อมแล้ว ร่างกายจะอ่อนแอลง เหนื่อยง่าย และจะมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันมากค่ะ วิธีถนอมไตไม่ให้ทำงานหนักเกินไป มีดังต่อไปนี้ค่ะ
- ลดการทานอาหารรสเค็มจัด หากเป็นคนที่ติดรับประทานรสจัด สิ่งที่เราควรทำอย่างแรกเลยก็คือการค่อยๆ ลดปริมาณความเค็มในอาหาร ปรุงให้น้อยลง เติมเกลือให้น้อยลง
- เลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง ผงชูรส และทานผักผลไม้ให้มาก การทำอาหารทานเองช่วยได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้ร้านอาหารส่วนใหญ่มักใส่ผงชูรสในการทำอาหาร บางร้านใส่เยอะจนน่าตกใจทีเดียว
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ไม่มากและน้อยจนเกินไป โดยคนปกติทั่วๆไปควรดื่มน้ำประมาณวันละ 2 ลิตรต่อวันค่ะ (ย้ำว่าคนปกตินะคะ เพราะถ้าเป็นคนป่วยไตเสื่อมแล้วทานน้ำมากก็อาจจะไม่ดีเพราะไตไม่แข็งแรงแล้ว)
- ออกกำลังกายเพื่อขับเหงื่อ ออกกำลังกายอะไรก็ได้ให้เหงื่อออกก็ช่วยขับเกลือและโซเดียมออกมากับเหงื่อได้นะคะ ลองหากิจกรรมที่เหมาะกับคุณดูค่ะ เน้นออกกำลังได้นานๆโดยไม่เหนื่อยมากแต่ให้ได้เหงื่อ หลายท่านจะเคยเห็นว่านักกีฬาเวลาออกกำลังกายหนักๆ จะดื่มเครื่องดื่มเกลือแร่ นั่นก็เพราะเวลาเหงื่อออกมากๆร่างกายจะขับน้ำและเกลือแร่ออกมากับเหงื่อจนร่างกายอ่อนเพลียได้ แต่สำหรับคนทั่วๆไปแล้วการออกกำลังกายให้เหงื่อออก ช่วยขับเกลือและลดการทำงานของไตได้ดีเลยค่ะ การออกกำลังนอกจากช่วยขับเกลือแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้น ออกกำลังกันเถอะค่ะ
หากใครรู้ตัวว่าตอนนี้รับประทานอาหารรสจัดหรือรสเค็มมากเกินไป ลองหันมาออกกำลังกายดูค่ะ (อาจจะง่ายกว่าการปรับนิสัยการทานอาหารด้วยซ้ำ) ลองรับประทานอาหารคลีนกันสัปดาห์ละ 2 -3 มื้อ หรือจะให้ดีทานคลีนวันละ1 มื้ออีกสองมื้อทานแบบปกติก็จะช่วยให้เราลดการทานรสจัดลงได้ค่ะ เพราะการที่เรารับประทานอาหารที่มีรสชาติอ่อนลงทำให้ลิ้นของเราไวต่อรสเค็มมากขึ้น และเมื่อเราไวต่อรสเค็มมากขึ้นเราจะลดการรับประทานเค็มโดยที่ไม่รู้สึกฝืนตัวเอง สามารถดูเมนูอาหารคลีนอร่อยๆ ได้ที่ “www.easycookingmenu.com” ในหมวด “CLEAN FOOD (คลีนฟู้ด)” ได้เลยนะคะ เรามีทั้งเมนูอาหารคาวและขนมหวานให้เลือกตามชอบเลยค่ะ