ประโยชน์ของซอสมะเขือเทศ

ให้คะแนนบทความนี้
(18 โหวต)

      บทความนี้จะพูดถึงเรื่องประโยชน์จากซอสมะเขือเทศซึ่งก็คือ สารไลโคปินที่พบมากในซอสมะเขือเทศค่ะ และที่สำคัญสารไลโคปินที่พบในซอสมะเขือเทศยังมีปริมาณมากกว่าที่พบในมะเขือเทศสดอีกด้วย!

     ไลโคปีน (Lycopene) เป็นให้สีแดงที่พบได้ในผลมะเขือเทศ และผักผลไม้ที่มีสีแดง เช่นแดงโม มะละกอ ช่วยให้ผิวพรรณดี เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง สามารถป้องกันการเกิดโรคเรื้อรังได้หลายชนิดโดยเฉพาะโรคมะเร็งต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุด คือ มะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมา คือมะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร ลดความเสี่ยงของ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ (colon) มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปาก มะเร็งเต้านม

     นอกจากช่วยให้ผิวพรรณดี ป้องกันโรคมะเร็งแล้ว ไลโคปินยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคไขมันอุตันในเส้นเลือด ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจอีกด้วยค่ะ

     ความเชื่อเรื่องการทานอาหารสดใหม่ดีที่สุดตามวิถีคลีนบางกรณีก็มีข้อยกเว้นสำหรับผลไม้บางชนิดค่ะ เพราะวิตามินบางอย่างเมื่อถูกความร้อนหรือผ่านการปรุงแล้ว กลับทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าการรับประทานแบบสดๆ

     ในกรณีซอสมะเขือเทศ ก็รวมอยู่ในข้อยกเว้นนี้ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อผ่านกระบวนการแปรรูปเป็นซอสมะเขือเทศแล้วกลับพบว่าปริมาณไลโคปินสูงขึ้นกว่าในมะเขือเทศสดมาก

ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ปริมาณไลโคปีน (มิลลิกรัม ต่อ น้ำหนัก 100 กรัม)
มะเขือเทศสด 0.88-4.20
มะเขือเทศปรุงสุก 3.70
ซอสมะเขือเทศ(Tomato sauce) 6.20
ซุปมะเขือเทศเข้มข้น   (Tomato soup (condensed)) 7.99
น้ำมะเขือเทศ 5.00-11.60
ซอสมะเขือเทศ  (Tomato ketchup) 9.90-13.44
มะเขือเทศผง 112.63-126.49
ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) 5.40-150.0

 ที่มาข้อมูล : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/...

      จากตารางจะเห็นว่าซอสมะเขือเทศมีปริมาณของสารไลโคปินประมาณ 9.9 ถึง 13.44 มิลลิกรัม ถึงเยอะกว่ามะเขือเทศสดที่มีเพียง 0.88-4.20 มิลลิกรัม ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเนื่องจากการแปรรูปที่ผ่านความร้อนและมีการเคี่ยวทำให้เกิดความเข้มข้นขึ้นกว่ามะเขือเทศสดนั่นเอง

     ทราบถึงประโยชน์ของไลโคปินแล้ว ถ้าอยากได้รับสารไลโคปินก็ง่ายๆเลยค่ะ หันมาทานมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงด้วยความร้อน อย่างซอสมะเขือเทศ หรือซุปมะเขือเทศก็ได้ค่ะ

ซอสมะเขือเทศมีข้อดีและข้อเสีย

   เห็นประโยชน์จากซอสมะเขือเทศแล้ว แต่ซอสมะเขือเทศก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คือส่วนผสมของน้ำตาล ที่ค่อนข้างมาก บางยี่ห้ออาจมีการใช้ แป้งมันมาผสม บางยี่ห้ออาจใช้วัตถุกันเสีย และอื่นๆอยู่ด้วย โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลในซอสมะเขือเทศที่ขายตามท้องตลาดจะอยู่ที่ 15 ถึง 20 เปอร์เซน และปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างเยอะนี่เองถ้าเรากินซอสมะเขือเทศมากก็ทำให้เรารับน้ำตาลเขาไปมากด้วยเช่นกัน เวลาเลือกซื้อก็ควรสังเกตุดูปริมาณวัตถุดิบบนฉลากประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ

   สำหรับคนรักสุขภาพ Easycooking มีสูตรทำซอสมะเขือเทศแบบโฮมเมดมาฝากค่ะ สามารถควบคุมรสชาติหวานมากหวานน้อยได้ตามชอบเลยค่ะ วิธีทำตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย!
main2.jpg
>> สูตรซอสมะเขือเทศโฮมเมด<<

 

ar108
แหล่งสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/...
http://pcog2.pharmacy.psu.ac.th/...
http://www.bangkokhealth.com/health/...

*หากไม่สามารถชมวีดีได้ กดคำว่า "รับชมบนเฟชบุค" ในคลิปวีดีโอนะคะ
50678

บทความล่าสุด

ดูทั้งหมด
  • ทำไมทานปริมาณเท่าเดิมแต่ยังอ้วนขึ้น ?
    โดยปกติร่างกายคนเราโดยเฉลี่ย ต้องการพลังงานวันละ 2000 กิโลแคลอรี แต่สำหรับผู้ที่ทำงานบริษัท หรือนักศึกษา ไม่ได้ใช้กำลังมากนักในการปฎิบัติงานหรือเรียนหนังสือ บวกกับไม่มีการออกกำลังกาย…
    26021