อยากกินบัวลอยน้ำขิง เคยไปซื้อกินถ้าร้านที่ขายไม่แพงไส้บัวลอยเขาจะผสมอย่างอื่นเข้าไปด้วยไม่ใช่งาดำล้วนๆเพื่อลดต้นทุน ความอร่อยก็ลดลงไปด้วย
ถ้าร้านที่อร่อยหน่อยก็ถ้วยละประมาณ 30 บาทได้บัวลอยมา 3 เม็ด ฮึ๊ยยย! กินไม่สะใจ ทำกินเองดีก่าา ไส้แน่นๆ!
ส่วนผสมบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- งาดำ 100 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า
ส่วนผสมน้ำขิง
- ขิงแก่หั่นแว่น 11/2 ถ้วย
- น้ําตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
วิธีทำ
- ทำไส้งาดำ ตั้งไฟ ใส่น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปรอจนน้ำตาลละลาย
- ใส่งาดำบดละเอียดลงไปคนให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อยให้งาดำเกาะตัวพอที่จะปั้นเป็นลูกๆได้
- นวดแป้งข้าวเหนียว เติมน้ำลงในแป้งทีละน้อย(ประมาณไม่เกินครึ่งถ้วย) ใช้มือนวดจนแป้งนุ่มเป็นก้อนพอปั้นได้ ใส่ไส้งาดำตรงกลางแล้วห่อเป็นลูก
- นำบัวลอยที่ปั้นไปต้มในน้ำเดือด ใช้ไฟไม่แรงมากเพื่อไม่ให้เม็ดบัวลอยแตก รอจนบัวลอยลอยขึ้นมาบนผิวน้ำแสดงว่าบัวลอยเริมสุกแล้ว ปล่อยให้ลอยซักพักประมาณ 15 วินาทีค่อยตักขึ้นเพื่อให้แป้งสุกดี
- นำบัวลอยที่ตักขึ้นมาพักไว้ในน้ำเปล่า เพื่อไม่ให้เม็ดบัวลอยติดกัน
- ปลอกเปลือกขิงล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบางๆ ต้มในน้ำจนเดือดซักพักใส่น้ำตาลตามลงไปคนให้เข้ากันต้มต่ออีกประมาณ 30 นาที
- เอาบัวลอยใส่ถ้วยราดด้วยน้ำขิงร้อนๆ พร้อมเสริฟ
Note
ปล. บัวลอยน้ำขิงนอกจากอร่อยแล้ว ทั้งงาดำและขิง ของดีมีปรโยชน์ต่อร่างกายด้วยนะจ๊ะ
ปล.2 น้ำขิงถ้าจะให้ดีใช้น้ำตาลทรายแดง แต่ใช้น้ำตาลทรายธรรมดาแทนก็ได้(รวมทั้งในไส้งาดำด้วย) เพราะพระเอกนางเอกของเมนูนี้คือ น้ำขิงและงาดำจ้า
ปล.3 น้ำขิงไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้ ไปใส่น้ำตาลตอนเสริฟในถ้วยแทน สำหรับท่านที่ทานหลายคน บางคนชอบหวานมาก บางคนชอบหวานน้อย เลือกใส่ได้ตามอัธยาศัย (แต่น้ำขิงต้องร้อนนะเดี๋ยวน้ำตาลไม่ละลาย)