น้ำซุปเข้มข้น สำหรับทำอาหารได้อร่อยโดยไม่ต้องพึ่ง ผงชูรสเลยล่ะค่ะ เสียเวลานิดหน่อยแต่รับรองคุ้มค่ากับคำว่า "เสน่ห์ปลายจวัก" แน่นอน พอดีวันก่อนได้กระดูกคาตั๊ง มา 2 กิโล จึงทำน้ำซุปฉบับเข้มข้นเพื่อเก็บไว้เป็นส่วนประกอบของอาหาร ได้นานๆ ส่วนประกอบก็ง่ายๆตามที่มีที่บ้านวันนั้นเลยค่ะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
ส่วนประกอบแรก "กระดูกคาตั๊ง"
นำไปต้มในน้ำกระทั่งเดือดพล่าน ราว 5 นาที (ไม่ต้องช้อนฟอง) เพื่อขจัดกลิ่นคาว กลิ่นสาบ คราบเลือด ออกไประดับนึงก่อนค่ะ. .....และเมื่อนำไปต้มอีกครั้ง ภาวะการเกิดฟองจะน้อยลง จะสะดวกมากขึ้นเพราะต้องต้มในระยะเวลาค่อนข้างนาน
เทน้ำออก นำกระดูกล้างน้ำให้สะอาด
เตรียมผักที่จะใช้ต้มน้ำซุป อ้อใช้ต้นหอม, หอมใหญ่, และกระเทียม (ปริมาณตามชอบนะ อันนี้มากหน่อยก็จะอร่อยจ้า)
นำประดูกที่ล้างสะอาดใส่หม้อ ตามด้วยน้ำเปล่า และผักทั้งหมด นำไปตั้งไฟแรง กระทั่งเดือด
เมื่อเดือด ช้อนฟองทิ้ง
เปิดไฟแรงต้มต่อ ประมาณ 1-3 ชั่วโมง ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร เล็กน้อย
พอดีวันนี้ อ้อจะทำข้าวต้มกระดูกหมู จึงใส่กระดูกหมูต้มไปกับน้ำซุปด้วยใน 2 ชั่วโมงหลังค่ะ... เพื่อให้เปื่อยนุ่มเหมาะสำหรับทำข้าวต้ม
ต้มต่อไปด้วยไฟกลาง-แรง อีก ราว 2 ชั่วโมง เติมน้ำได้เล็กน้อยนะคะ
เสร็จแล้วจะเห็นว่าน้ำซุปจะค่อยๆเปลี่ยนสี
กระดูกจะเปื่อยยุ่ย ความหวานออกมาอยู่ที่น้ำซุปอย่างเต็มเปี่ยม
น้ำซุปเริ่มเป็นสีขาวแล้ว
ชั่วโมงหลังเบาไฟให้เดือดรุมๆก็ได้นะ
พอได้ที่แล้ว ก็แยกกระดูกออก และกรองน้ำซุป
กรองแล้วก็จะได้น้ำซุปเข้มข้น รสกลมกล่อม หวานน้ำต้มกระดูกอย่างแท้จริง (จะนำไปทำเป็นน้ำซุปราเมง ได้เลยสบายๆ)
วิธีเก็บอ้อก็คือ จะทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นเก็บในกล่อง แช่เย็น หรือแช่แข็ง เพื่อเก็บไว้ทำอาหาร
เมื่อแช่เย็น น้ำซุปจะจับตัวเป็นเจลลี่นุ่มๆ ตักมาเป็นก้อน นำไปเป็นส่วนผสมแทนผงปรุงรส ในเมนูผัดต่างๆ ได้สบาย หรือหากทำแกงจืดให้นำไปผสมน้ำเปล่าเพื่อให้ได้น้ำซุปใส สำหรับแกงจืด หรือเป็นส่วนประกอบเมนูอื่นๆได้ตามความชอบ
สำหรับอ้อวันนี้นำน้ำซุปเข้มข้น มาต้มเป็น ข้าวต้มกระดูกหมู อร่อยถูกใจเลยค่ะ ทุกคนที่ได้ชิมก็ชอบ (หากมีโอกาสลองทำกันดูนะคะ)